รีวิวทริปเที่ยวเกาหลีใต้ กรุงโซล ซอรัคซาน เกาะนามิ ด้วยตนเอง

รีวิวทริปเที่ยวเกาหลีใต้ กรุงโซล ซอรัคซาน เกาะนามิ ด้วยตนเอง
South Korea Trip Review, Seoul Soraksan Sokcho Nami Island

วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

วันที่ 7 เที่ยว Namsan Seoul Tower เดินทางกลับกัวลาลัมเปอร์ นอนค้างสนามบิน LCCT

สวัสดีครับ วันนี้ก็เป็นวันที่ 7 ของการเดินทางครับ ตรงกับวัน พุธที่ 8 พฤษภาคม 2556 ซึ่งจะเป็นวันสุดท้ายที่เราจะอยู่ประเทศเกาหลีแล้วนะครับ วันนี้ตื่นสายกันมาก กะว่าตื่นมาแล้วเช็คเอาท์เลยครับ แต่ก็ต้องลุกไปกินมาม่าคัพที่โรงแรมเตรียมไว้ให้ก่อนเป็นประจำทุกวัน ไม่งั้นหมด อดกิน กินเสร็จก็ต่อด้วยนมกล้วยสุดแสนหอมหวานอร่อยครับ ซื้อมาจากร้านเซเว่นอีเลฟเว่นปากซอยเมื่อคืน


นมกล้วยนี้ อร่อยจริงๆครับ ลองกินดูให้ได้นะครับ ถ้ามาเกาหลี 


ประมาณ 11 โมงก็เดินไปเช็คเอาท์ที่รีเซ็ปชั่นซึ่งอยู่ที่นัมซานเกสเฮาส์ 2 แต่ก็ยังฝากกระเป๋าไว้ที่นัมซานเกสเฮาส์ 1 ได้นะครับ ค่อยมาเอาทีหลัง เพราะเราจะขึ้นไปชมหอคอยนัมซานก่อน จากนัมซาน 1 ก็เดินขึ้นเขาไปอีก 100 เมตรจะเจออาคารนี้ครับที่ปล่อยเคเบิ้ลคาร์เพื่อขึ้นไปชมหอคอยนัมซานหรือ N Seoul Tower ครับ 


ภาพนี้แสดงตัวอาคาร และบันไดทางขึ้นไปหอคอยนัมซานนะครับ 


ขึ้นมาแล้วก็ เดินไปในตัวอาคารนี้นะครับ มีที่ขายตั๋วขึ้นเคเบิ้ลคาร์ครับผม 


ตั่วค่าขึ้นกระเช้าไปกลับคนละ 8000 วอนครับ (คนละประมาณ 210 บาท)


รอกระเช้าที่ลงมาจากหอคอยลงมารับขึ้นไปครับ วันนี้ดูคนไม่ค่อยเยอะมากเท่าไหร่ ครับ


วิวที่เคเบิ้ลคาร์จอดครับ 


แล้วก็ต้องเดินขึ้นบันไดไปอีกนิดครับ 


มีซุ้มให้ใส่ชุดฮันบกถ่ายรูปด้วยครับ ผมไปถามเขาบอกว่าฟรี แต่เราถ่ายมาจากหมู่บ้านโบราณนัมซานกลไปเรียบร้อยแล้ว (แต่ผมไม่ได้ถามมาว่ามีให้ถ่าย ฟรีทุกวันหรือเปล่า) 


อีกมุม มีป้อมปราการให้ถ่ายรูปด้วยครับ


แล้วก็จะเจอกับศาลาตรงนี้ครับ


แล้วก็หอคอย นัมซาน หรือ N Seoul Tower ครับ ยอดไม้บังซะ 


ตรงนี้มีลานสวนสาธารณะด้วยครับ 


ตรงฐานของโซลทาวเวอร์ มุมด้านซ้านมีซุ้มที่เขาเอากุญแจรักไปคล้องไว้หลายต้นครับ 


เข้าไปชมดูใกล้ๆครับ (กุญแจสนิมเขรอะเลยครับ อิิๆ แต่มองไกลก็ดูดีครับ)


จะบอกว่า มีป้ายห้ามโยนลูกกุญแจ หรือ ขยะลงไปข้างล่างแล้วนะครับ จะโดนปรับ มีกล้อง CCTV จับตาอยู่ตลอดเวลาด้วยนะครับ 


ขึ้นไปชั้นบนอาคารที่ขายตั๋วขึ้นหอคอย ก็มีแนวกุญแจแขวนอยู่ตามราวรั้วทุกด้านครับ


หลากสีสัน แต่ก็สนิมครับ เพราะผ่านร้อนผ่านหิมะมาหลายฤดู


ลงไปข้างล่างลานกุญแจ จะซื้อตั๋วขึ้นไปบนหอคอยครับ


ตั๋วค่าขึ้นไปชมหอคอยนัมซาน คนละ 9000 วอนครับ (ประมาณ 237 บาท)ให้เหรียญหัวใจเอาไว้โยนมาจากตรงไหนก็ไม่รู้ แต่ผมไม่โยนครับ เอามาเก็บไว้เฉยๆเป็นที่ระลึกครับ 


วิวกรุงโซลแถวๆเมียงดงที่เราพักอยู่ และอาคารที่เราขึ้นเคเบิ้ลคาร์ขึ้นมาข้างบน  ภาพวิวมองจากบนหอคอยนัมซานครับ 


ภาพนี้ถ้าขยายให้ใหญ่ขึ้นก็จะเห็นแคปซูลแห่งกาลเวลา ที่หลังหมู่บ้านโบราณนัมซานกลครับผม


ฟากนี้เห็นสะพานพันโพกำลังปล่อยน้ำพุอยู่เลยครับ  น้ำพุที่สะพานพันโพแห่งนี้พวกเราจะไปดูตั้งแต่วันแรกที่มาถึงเกาหลี แต่เขาเลิกแสดงไปซะก่อน


จะเห็นได้ว่าสะพานข้ามแม่น้ำฮันของเขามีหลายสะพานมากๆครับ สะพานเยอะมากๆจริงๆ


บนหอคอยนัมซานแห่งนี้ก็มีตุ๊กตาขายเป็นของที่ระลึกเยอะแยะมากมายครับ


ร้านกิฟช็อปอีกมุมหนึ่งครับ 


ซองใส่พาสปอร์ต และแท็กกระเป๋าเอาไว้โหลดขึ้นเครื่อง


สุดท้าย ผมก็ได้หมอนนี้มา 1 ใบ เอาไว้รองกันคอเคล็ดเวลาหลับบนเครื่องบิน รู้สึกจะ 15,000 วอน (ประมาณ 394 บาท)


แล้วก็ลงมาข้างล่างเหมือนเดิมครับ โชว์ภาพที่ซื้อตั๋วขึ้นหอคอย และชั้นบนหลังคาของที่ขายตั๋วที่ตนเขาไปคล้องกุญแจกันครับ


แถมอีกรูปก่อนกลับโรงแรมครับ 


หลังจากนั้นเราก็ลงเคเบิ้ลคาร์แล้วเดินลงกลับไปโรงแรมนัมซานเกสเฮาส์เพื่อไปเอากระเป๋าสัมภาระที่ฝากเอาไว้ แล้วเดินทางไปสนามบินเลยครับ ก็นั่งสาย 4 จากเมียงดง (424) ไปลงสถานีSeoul Station (426) แล้วให้เปลี่ยนเป็นขบวนที่จะไปสนามบินอินชอน เนื่องจากเหลือเวลาค่อนข้างเยอะ พวกเราตัดสินใจฆ่าเวลาด้วยการนั่งรถไฟขบวนที่จอดทุกสถานี ซึ่งอยู่ชั้นใต้ดินชั้นล่างสุดของสถานี Seoul Station (ขบวนที่ Non-Stop Train ไปสนามบินที่เรานั่งมาตอนมาถึงเกาหลีวันแรกจะอยู่ชั้นบนถัดไปอีก 1 ชั้น) แต่ขบวนที่เรานั่งมาที่จอดทุกสถานี มันจะสิ้นสุดปลายทางที่สถานี Geomam(A07) พาให้งงเล็กน้อยว่าทำไมมาสิ้นสุดตรงสถานีนี้ นึกว่านั่งรถผิดขบวน แต่มันก็มีแต่สายนี้สายเดียวครับเส้นที่ไปแอร์พอร์ท พอรถจอด เขาประกาศให้คนลงแล้วให้เรารอนิดหน่อยเพื่อต่ออีกขบวนที่มาทีหลัง แต่ว่าไม่ต้องเดินครับ ลงแล้วรอได้เลย แล้วก็ขึ้นขบวนใหม่นี้นั่งต่อไปอีกสามสถานีก็ถึงสนามบินอินชอนครับ(A10) 


ป้ายไฟในขบวนที่เราต้องนั่งต่อไปให้ถึงสนามบิน แสดงสถานีที่เหลืออีก 3 สถานี (ไฟสีเขียว) ก็จะถึงสนามบินอินชอน 


ก่อนไปเช็คอินขึ้นเครื่อง พวกเราก็เอาบัตร T Money ไปรีฟันด์เงินคืนครับ เสียค่ารีฟันด์แค่ 500 วอนครับ แล้วก็ได้บัตร T Money มาเก็บไว้เป็นที่ระลึกด้วยครับ แล้วก็เช้คอิน ผ่าน ตม.ออกนอกประเทศเกาหลี แล้วก็ต่อขบวนรถไฟมาอีกเทอร์มินอลเพื่อเข้าเกทครับ รอไฟลท์ D7505 จาก อินชอน ไปกัวลาลัมเปอร์ ครับ


ถึงกัวลาลัมเปอร์ก็หาอะไรกินแล้วนอนสนามบินเลยครับ มุมใครมุมมัน 


ผมขอแนะนำให้มานอนตรงนี้ครับ ตรงเคาน์เตอร์เช็คอินหมายเลข S48 ดึกๆรับรองว่าไม่มีใครเดินผ่านไปผ่านมากวนอารมณ์แน่นอนครับ เพราะอยู่ในหลืบที่สุดแล้ว 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น