สวัสดีครับ วันนี้ก็เป็นวันที่ 6 ของการเดินทางครับ ตรงกับวัน อังคารที่7 เดือนพฤษภาคม 2556 ครับผม วันนี้มีแผนไปเดินเล่นที่เกาะยออิโดสักเล็กน้อยชมวิวแม่น้ำฮัน แต่เผื่อฟลุ๊กว่าจะยังเจอดอกซากุระบานที่ ยออิโดยังเหลือให้เราถ่ายรูป (แต่ความจริงคือมันร่วงไปหมดแล้วครับ เราไปเที่ยวช้าไปหน่อย)
จะไปยออีโดก็ต้เองนั่ง subway จากเมียงดง (424) ไปลงสถานี Seoul Station(426) ที่สถานี Seoul Station เจอที่แลกตังค์ด้วยครับ น้องๆเขาเอาเงินไทยไปแลก แต่ไม่ได้ถามเรทแลกเปลี่ยนมาให้ ไม่แน่ใจว่าเรทดีหรือเปล่า (แต่คิดว่าไม่ดีแน่ๆ บ้านเราแลกเรทดีกว่า)
ถึงสถานี Seoul Station แล้วให้ต่อสายที่จะไปสนามบินอินชอนแต่ต้องนั่งขบวน All - stop train นะครับ ซึ่งจะอยู่ชั้นล่างสุดของสถานีเลยครับ (รถขบวนที่จะไปสนามบินอินชอนขบวนที่เป็นขบวนยิงตรงไม่จอดทุกสถานีที่เรานั่งมาตอนวันมาถึงเกาหลี จะอยู่ชั้นบนจากชั้นนี้ไป 1 ชั้นครับ) เดินไกลนิดหนึ่งนะครับ ที่สถานีนี้เพราะอาณาบริเวณมันใหญ่มากเลย มีรถหลายขวนมากๆที่สถานีนี้
จาก Seoul Station นั่งมาแค่สถานีเดียว ลงสถานี Gongdeok แล้วเปลี่ยนขบวนเป็นสายสีม่วงครับคือสาย 5 (529) จาก Gongdeok นั่งไปอีก 2 สถานี ลงสถานี Yeouinaru (527) หาทางออกหมายเลข2 โผล่ออกมาเป็นสวน Yeouido Hangang Park (여의도공원)
บริเวณกว้างใหญ่ไพศาลทีเดียว พวกเราเลยแค่ถ่ายรูปรอบๆ เพราะไหนๆก็ไม่มีซากุระบานให้เห็นแล้วก็ขี้เกียจเดินกันต่อ สมาชิกเลยหลบร้อนอยู่ในร่ม หลวงไข่เดินลงมาถ่ายรูปรอบๆเล็กน้อย
มองเห็นวิวสะพานอยู่ลิบๆ
อีกด้านหนึ่งครับ แล้วก็ตั้องใจว่าจะไปสวนสนุกเอเวอร์แลนด์กันเลย ก็ต้องลงไป Subway ที่เดิมครับ
Subway สถานี Yeouinaru ห้องน้ำสะอาดมากๆครับ ห้องน้ำน่านอนมากครับ 555 สะอาดจริงๆ
ตรงหน้าห้องน้ำสถานี Yeouinaru มีรูปดอกซากุระบานอยู่เยอะเลยครับ นางแบบเราเลยขอถ่ายไว้เป็นที่ระทึก ของจริงไม่ต้อง ถ่ายรูปกับรูปภาพก็พอครับ อิๆๆ
นั่ง Subway จาก Yeouinaru (527) ต่อไปอีก 4 สถานี ไปลงสถานี Yeongdeungpo-gu office (523) เพื่อเปลี่ยนขวนเป็นสายสอง สีเขียว (236) นั่งไปหลายสถานีมากๆครับ ประมาณ 14 สถานีครับ ไปลงสถานี Gangnam (222) แล้วเดินออกประตู 5 หรือ 6 ก็ได้ครับ ขึ้นมาบนพื้นดินแล้วจะเห็นป้ายรถเมล์อยู่บนเกาะกลางถนน อยู่ระหว่งทางออกประตู 5 กับประตู 6 นะครับ เดินข้ามถนนไปรอรอถที่ป้ายนี้ครับ
ป้ายรถเมล์ที่เกาะกลางถนนแห่งนี้ จะมีป้ายบอกรายละเอียดสายรถเมล์แต่ละสายว่าผ่านที่ไหนบ้าง เราจะไปเอเวอร์แลนด์ต้องนั่งสาย 5002 เท่านั้นครับ ระวัง*** ป้ายนี้มีรถเมล์สาย 5002-1 ด้วยครับที่ต้องดูให้ดีก่อนขึ้นรถนะครับ พวกเราไม่ดูให้ดีก่อน พอปี๊ดบัตร T money ขึ้นรถเขาบอกว่าไม่ได้ไปเอเอวร์แลนด์ พอลงไปดู เอ๊า นี่มันสาย 5002-1 หน้าแตกเลยครับ เลยต้องรอสาย 5002 กันต่อไป (เสียตังค์ฟรีๆ 555)
ดูตรงนี้ก็ได้ครับ ข้างป้ายรถเมล์มันมีป้ายไฟบอกอยู่ว่าสายไหนกำลังจะมาบ้างครับ
นั่งรถเมล์สาย 5002 มา 40 นาทีครับ ก็จะถึงทางเข้าด้านหน้าของเอเวอร์แลนด์ แต่เราต้องต่อรถ shuttle bus ของสวนสนุกเข้าไปข้างในอีกทีนะครับ เดินไปตามป้ายบอกเลยครับ
รถบัสของสวนสนุกจอดรออยู่ข้างในแล้วครับ พอคนเต็มก็ออกครับ
ถ้าไม่อยากยืนก็ให้รีบเดินมาขึ้นรถนะครับ 555 แต่ว่ายืนไม่นานครับ แค่ 5 นาทีก็ถึงสวนสนุกแล้วครับ
ที่เป็นช่องๆในภาพคือซุ้มขายตั๋วตรงทางเข้าครับ
ช่องขายตั๋วครับ โชว์พาสปอร์ต ได้ส่วนลดด้วยครับ 20% จากราคาตั๋ว 44,000 วอนครับ
หน้าตาของตั๋วเข้า เอเวอร์แลนด์ครับ โชว์พาสปอร์ต ค่าเข้าลดลงจาก 44,000 วอน เหลือ 35,000 วอนครับ (จาก 1,157 บาท ลดลงเหลือ 921 บาทโดยประมาณครับ) จ่ายบัตรเครดิตได้ครับ
ซื้อตั๋วแล้วต้องเดินเข้ามาข้างในอีกชั้น เจอด่านตรวจตั๋วครับ เจ้าหน้าที่ฉีกหางบัตรออกไป
เข้ามาแล้ว อย่าลืมหยิบโบรชัวร์ แผ่นพับของสวนสนุกนะครับ แสดงรายละเอียดแผนที่ไปยังเครื่องเล่นต่างๆ โบรชัวร์ภาษาไทยก็มีนะครับ แบบว่าเอาใจคนไทยสุดๆ
เข้ามาแล้วก็ต้องประทับใจกับสวนสวยๆ ดอกไม้สวยๆตระการตาให้ถ่ายรูปครับ
มองเผินๆนึกว่าดอกไม้ปลอม แต่มันคือดอกไม้จริงๆนะครับ
เดินเข้าไปอีกนิดเจอต้นไม่ปลอมต้นใหญ่ยักษ์
เยื้องๆกันเป็นร้านอาหารข้างในครับ ร้านอาหารจ่ายบัตรเครดิตได้ครับ เข้าไปกินอาหารก่อนครับ เพราะมาม่าฟรีที่แจกที่โรงแรม เริ่มหมดพลังงาน
กินข้าวเสร็จก็เดินออกมา เป็นเวลาบ่ายสอง ได้ยินเสียงประกาศประมาณว่าเครื่องเล่นทุกอย่างหยุดให้บริการครึ่งชั่วโมง จะให้บริการอีกทีตอนบ่ายสองครึ่ง พลาดไปอีก 1 อย่าง ถ้ารู้ก่อนหน้านี้ก็คงเล่นเครื่องเล่นสักอย่างก่อน แล้วค่อยมากินข้าว ช่วงที่เขาพักเครื่องเล่น พวกเราก็เลยต้องรออีกครึ่งชั่วโมง นี่ยังไม่ได้เล่นเครื่องเล่นอะไรเลยนะเนี่ย ปาเข้าไปครึ่งวันแล้ว พอบ่ายสองครึ่งก็มารอตรงซุ้มนีครับ เป้นการ์ตูนสามมิติ ครับ (จะเข้ามาดูทำไมก็ไม่รู้ มีแต่เด็กตัวเล็กๆที่พ่อแม่พามาดูกัน)
ดูการ์ตูนสามมิติเสร็จแล้วก็เดินเข้ามาข้างในเรื่อยๆครับ เจอกังหัน ด้านล่างเป็นสวนดอกไม้สวยๆสุดลูกหูลูกตา
ด้านหน้ากังหันมีดนตรีบรรเลงให้นั่งฟังชิลๆกันด้วยครับ
มุมนี้เห็นสวนดวกไม้ และเห็นรางรถไฟรางไม้สูงเด่นตระหง่านอยู่เบื้องหลัง
มุมสวนทิวลิปครับ
มุมทิวลิปอีกรูปครับ
ภาพนี้ภูมิใจนำเสนอครับ นางแบบของเราน่ารักมากๆ
มุมน้ำพุ ที่มองเห็นชิงช้าสวรรค์อยู่เบื้องหลัง ไกลจังเลย เดี๋ยวค่อยไปขึ้นละกัน
สาวๆ ถ่ายรูปเล่นกันไปเรื่อยๆ สองหนุ่มขอท้าประลองความเสียมาเล่น T Express ครับ นั่นคือรถไฟรางไม้ที่มีความชันที่สุดในโลก ดิ่งลงมาเกือบ 90 องศา
เข้ามายืนรอแถวข้างใน ได้ยินเสียงรถไฟวิ่งวนไปวนมาตามราง ผสมเสียงกรี๊ดของคนที่เล่นด้วยความหวาดเสียวดังไม่ขาดระยะ พาให้คนรอรู้สึกตื่นเต้นไปด้วย 555 รางไม้ที่เห็นในรูปคือไม้จริงๆครับ แต่ดูจากโครงสร้างแล้วแข็งแรงมากๆครับ
ยืนเข้าแถวรอเล่น 1 ชั่วโมงเต็มๆเลยครับ คนเยอะมากๆ เสียเวลานานมาก พอถึงคิวก็เข้าไปตามล็อคครับ สามารถเดิมข้ามไปเก็บของในตู้อีกฟากหนึ่งของรางได้ แล้วก็ลงมานั่งในขบวนรถแบบใจเต้นระทึกมากมาย 555 พอรถไฟออกก็ออกแบบช้าๆ เนิ่บๆ ค่อยๆไต่ระดับความสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ทีละนิดจนถึงจุดยอด มีการหยุดให้ถอนหายใจเตรียมใจนิดหนึ่งก่อนที่มันจะพาเราลงมาจากความสูงในแนวเกือบตั้งฉาก ด้วยความเร็วที่มากกว่าแรงโน้มถ่วงของโลก แบบว่าก้นลอยจากพื้นเลยครับ หัวใจเหมือนจะหลุดออกมาตรงตาตุ่ม ได้ยินเสียงกรี๊ดจากคนรอบด้าน แต่ผมไม่กรี๊ดครับ เก็บความเสียวไส้ติ่งไว้ภายใน แบบกรี๊ดไม่ออก รถไฟพาเราเหาะไปเหมาะมา ใช้เวลาประมาณ 3 นาทีครับ เล่นเสร็จ ออกมาขาสั่นพั่บๆๆๆ และหูอื้อเพราะคนรอบข้างกรี๊ดเสียงดังมากๆ 555
ประมาณ บ่าย 4 กว่าๆ มีโชว์สวยงามให้เรานั่งดูแบบสบายๆด้วยครับ
แล้วก็เดินชมโซนของสัตว์ครับผม มีเสือขาวด้วย
มีหมีขาวด้วย
แล้วก็นั่งกระเช้าเลื่อนแบบนี้ครับ
ปิดท้ายกันด้วยเครื่องเล่น Dragon Coaster ประมาณรถไฟรางเล็ก แต่ไม่ได้ตีลังกานะครับ อย่างอื่นคิวยาวมากๆก็เลย ขี้เกียจรอ สรุปว่า วันนี้ จ่ายค่าเข้ามา เล่นไม่คุ้มเลยครับ ขาดทุน มัวแต่เสียเวลาหาซากุระบานที่ยออีโด อยู่
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เจอซากุระบาน 1 ต้นที่เอเวอร์แลนด์ ถ่ายไว้เป็นที่ระลึกครับ แล้วก็ได้เวลากลับ ก็เดินออกไปขึ้นรถ Shuttle Bus ของสวนสนุกเอเวอร์แลนด์ ไปลงตรงป้ายรถเมล์ แล้วนั่งรถเมล์สาย 5002 กลับไปที่กังนัมเหมือนเดิมครับ ต่อ Subway ไปเมียงดง ขากลับจากสถานีกังนัม (222) นั่งไป 17 สถานี ไปลงสถานี Dongdaemun History & Culture Park (205) แล้วก็เปลี่ยนเป็นสายสีฟ้าสายสี่ (422) ตอนแรกกะว่าจะลงเมียงดง(424) กลับดรงแรมเลย แต่อยากซื้อของฝากเพิ่ม เลยนั่งรถต่อไปอีก 1 สถานี คือสถานี Hoehyeon(425) เพื่อไปตลาดนัมแดมุนครับ มาถึงแล้วก็เดินออกทางออกประตู 5 หรือ 6 ครับ ออกมาก็เป็นตลาดนัมแดมุนเลยครับ (ตลาดปิดวันอาทิตย์)
เดินออกมาก็จะเจอกับบรรดาร้านอาหารแบบคลุมเต๊นท์แบบนี้อยู่เต็มไปหมดเลยครับ
แต่ว่าร้านค้าต่างๆก็ทยอยปิดกันเกือบหมดแล้วครับ เพราะว่าเรามาถึงก็ปาเข้าไป 4 ทุ่มแล้ว
เดินมาตรงทางแยก เจอร้านนี้ตรงทางแยกพอดี เปิดไฟสว่างโร่ เลยได้ของฝากกลับมาเมืองไทยอีกเพียบครับ ราคาของฝากเหมือนกับที่ในห้างที่ทงแดมุนเปี๊ยบเลยครับ
ซื้อของฝากเสร็จก็กลับโรงแรมนอนครับ พรุ่งนี้เราก็จะกลับแล้วววว....
อ่านบทความก่อนหน้า วันที่ 5 เดินทางจาก ซอรัคซาน ไปชุนชอน (춘천 ) ต่อรถไป Gapyeong นั่งรถ Gapyeong Circle tour bus ไปเกาะนามิ และ หมู่บ้านฝรั่งเศส
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น