สวัสดีครับ 안녕하세요 อันฮยองฮาเซโย สวัสดีกันเป็นภาษาเกาหลีนะครับ เจอกันอีกแล้ว บล็อกนี้ หลวงไข่ไปเที่ยวเกาหลีมาครับ ไปกับเพื่อนๆ น้องๆ หลานๆ รวม 9 ชีวิตครับ เดินทางตั้งแต่ วันที่ 2 พฤษภาคม - วันที่ 9 พฤษภาคม 2556 นะครับ เป็นช่วงหน้าร้อนที่เกาหลี อากาศกลางวันจะร้อนนิดๆไม่้ร้อนมาก แต่วันที่ไปเอเวอร์แลนด์ ร้อนมากๆครับไม่ต่างกับอยู่ประเทศไทยเลย ส่วนตอนเช้าๆ แล้วก็ค่ำๆ กลางคืนหนาวนิดๆ แต่ก็ชอบครับ ไม่อยากไปหน้าหนาว กลัวทนความหนาวเย็นไม่ได้ครับ อิๆ
ต้องขอออกตัวไว้ก่อนว่า ผมไม่ใช่คนบ้าดาราเกาหลี ไม่รู้จักดาราเกาหลีเลย ไม่ชอบอะไรที่เป็นเกาหลีเป็นพิเศษ แต่ที่ไปเที่ยวเกาหลี คือต้องการสัมผัสวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ ผู้คน อาหารการกินนะครับ ไปมาแล้วก็ชอบมากครับ ชอบประเทศนี้ครับ สะอาดมาก ห้องน้ำสาธารณะสะอาดทุกที่แบบว่าแทบจะนอนได้เลย อาหารการกินถึงแม้ไม่ถูกปากผมเท่าไหร่แต่ก็กินได้ครับ ประเทศเกาหลีมีการจัดการบริหารบ้านเมืองที่ทันสมัย ระบบการคมนาคมขนส่งที่ตรงเวลามาก มีรถไฟฟ้าใต้ดินหลายสาย ครอบคลุมทั่วเมืองหลวงและเมืองรอบนอก ทุกอย่างที่สัมผัสด้วยตัวเองมา ลงตัว สะดวกสบาย ผู้คนเป็นมิตร คุยอังกฤษก็ได้เยอะแบบผิดคาด ถามทางได้หมดครับ เพราะฉะนั้นเราสามารถเที่ยวประเทศนี้ได้ด้วยตัวเองอย่างง่ายดายครับ
ส่วนเรื่องของด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม.ที่ใครต่อใคร รวมทั้งพวกกระผมต่างก็หวาดกลัวเป็นกังวลกัน หนักหนาก่อนเดินทางก็ไม่เห็นมีปัญหาครับ ไม่ถามอะไรเลยซักคำ แสตมป์เข้าประเทศอย่างเดียวเลยครับ แต่ตอนเข้าคิวรอก็ใจเต้นเหมือนกันครับ กลัวโดนส่งตัวกลับ เลยให้เด็กๆ ลองเข้าไปก่อน เผื่อมีปัญหาอะไร เราจะได้คอยช่วยเหลือ แต่พอเด็กๆ ผ่านไปได้ ก็รอลุ้นระทึกกับผู้ใหญ่ ทุกคนก็ผ่านไปได้อย่างง่ายดายแทบไม่น่าเชื่อเหมือนกันครับ
ส่วนเรื่องของด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม.ที่ใครต่อใคร รวมทั้งพวกกระผมต่างก็หวาดกลัวเป็นกังวลกัน หนักหนาก่อนเดินทางก็ไม่เห็นมีปัญหาครับ ไม่ถามอะไรเลยซักคำ แสตมป์เข้าประเทศอย่างเดียวเลยครับ แต่ตอนเข้าคิวรอก็ใจเต้นเหมือนกันครับ กลัวโดนส่งตัวกลับ เลยให้เด็กๆ ลองเข้าไปก่อน เผื่อมีปัญหาอะไร เราจะได้คอยช่วยเหลือ แต่พอเด็กๆ ผ่านไปได้ ก็รอลุ้นระทึกกับผู้ใหญ่ ทุกคนก็ผ่านไปได้อย่างง่ายดายแทบไม่น่าเชื่อเหมือนกันครับ
โดยทริปนี้ พวกผมเดินทางด้วยแอร์เอเชียเช่นเดิมครับ แต่ต้องไปต่อเครื่องที่กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ด้วยอานิสงค์ที่แอร์เอเชียบินจากสุราษฎร์ธานี ไปกัวลาลัมเปอร์แล้ว เราเลย ได้นั่งเครื่องจากสุราษฎร์ธานีไปกัวลาลัมเปอร์ ไม่ต้องไปต่อเครื่องที่กทม.ให้เสียเวลา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องนอนกัวลาลัมเปอร์ 1 คืน ก่อนเดินทางไปเกาหลีวันรุ่งขึ้นครับ รูปข้างบนนี้ เป็นราคาตั๋วโดยประมาณ ถ้าเราได้ช่วงโปรโมชั่น ไปกลับกัวลาลัมเปอร์ - อินชอน จะอยู่ที่ประมาณ 752 ริงกิต หรือประมาณ 7520 บาท ตกเที่ยวละ ประมาณ 3760 บาท ซึ่งถือว่าได้ราคาถูกมากครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องหาตั๋วไปกัวลาลัมเปอร์ด้วยนะครับ ราคาตั๋วรวมๆน่าจะตกอยู่ที่ประมาณ คนละ 13000 บาทเบ็ดเสร็จนะครับถ้าได้ตั๋วช่วงโปรจริงๆ ส่วนโรงแรมก็จองกับอโกด้าเลยครับ ที่โซลผมพักที่ Namsan Guest House ได้อยู่ Namsan Guest House1 เดินไกลสุด แต่จะอยู่ใกล้ทางขึ้นกระเช้าไปโซลทาวเวอร์ที่สุดครับ ( นัมซานเกสเฮาส์เขามี 3 ที่ครับ แต่อยู่บริเวณละแวกเดียวกันทั้งหมดครับ)
ทริปนี้หลวงไข่ต้องศึกษาเส้นทางจากเว็ปที่คนเขาเคยไปกันมาแล้วรีวิวให้เราได้อ่าน รวมทั้งต้องอ่านหนังสือหาข้อมูลประกอบด้วย โดยมีการวางแผนคร่าวๆ ไว้ดังรายละเอียดด้านล่างครับ บางที่ก็ไม่ได้ไปครบตามที่ตั้งใจไว้ครับ เพราะมีทั้งเด็กและคนชรานะครับ ทริปนี้ เลยได้ไปเฉพาะที่ๆ เขาไปกันแบบสำคัญๆ ครับ อันปลีกย่อยไปไม่ทันจริงๆ
ITINERARY (ที่ตั้งใจเอาไว้ว่าจะไป แต่ไปได้ไม่ครบทุกที่)
Thursday 2nd May 2013
เดินทางจากเกาะสมุยสู่สนามบินสุราษฏร์ธานี เพื่อขึ้นเครื่องแอร์เอเซีย เที่ยวบิน AK1861
11:35 – 14:10 สุราษฎร์ธานี – LCCT กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
นั่งรถบัสจากสนามบินเข้าตัวเมือง KL Sentral หาของกิน
แล้วนั่งรถไฟฟ้า Monorail ไปโรงแรมแอปเปิ้ล ย่านบูกิตบินตัง ชมตึกเปโตรนาส
หาอาหารกินแถวโรงแรม
Friday 3rd May 2013 เวลา 5:00
a.m. เดินทางจากโรงแรมไป KL Sentral นั่งรถบัสกลับมาสนามบิน
LCCT กัวลาลัมเปอร์ เพื่อขึ้นเครื่อง D7504 09:00 – 16:20 กัวลาลัมเปอร์
– ICN (Incheon ) สาธารณรัฐเกาหลีใต้ เมื่อถึงสนามบิน จะต้อง ซื้อบัตร T Money ราคา ใบละ 3,000
วอน
(เติมเงินได้ตั้งแต่ 1,000 – 500,000 วอน รีฟันเงินคืนที่เหลือได้ตอนกลับบ้าน) ใช้เพื่อนั่งรถไฟ Airport Express
(AREX ) จากสนามบินอินชอนไปลงสถานี
Seoul Station (A 10) ใช้เวลาประมาณ 40 นาที เปลี่ยนขบวนรถมาเป็นสาย 4 (สีฟ้า)
สถานี Seoul Station (426) ไปยังสถานี Myeongdong (424)]ลงสถานีนี้
เดินออกประตู 3 เดินเข้ามาทางถนน Toegye-ro 18 gil (퇴계로18길) ประมาณ 200 เมตร ถึง
Namsan Guesthouse (Tel : +8227526363)เช็คอินพักผ่านอาบน้ำตามอัธยาศัย
หลังจากนั้นก็ออกเดินเที่ยว วันแรกจะพาไปหาของกินที่ Itaewon
ขึ้นรถไฟสายสีฟ้าสถานีเมียงดง (424) ไปสถานี Samgak Ji (428) ต่อสายสีเหลืองน้ำตาลสาย
6 สถานี Samgak Ji(628)ไปลงสถานี Itaewon (630) ออกประตูไหนก็ได้
มีแหล่งช็อป กิน เพียบ (ที่สถานี Samgak Ji ทางออก 12 สามารถชมอนุสรณ์สถานสงคราม (ชมฟรี) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
มีแสดงหัวรบ เรือรบ เครื่งบินรบ อลังการมาก ถ้ามีเวลา เปิด 9:00 -18:00 ปิดวันจันทร์)ต่อมาก็ไป สะพาน
พันโพ ชมน้ำพุสายรุ้งมีการแสดงน้ำพุเม.ย.- มิ.ย. จันทร์-ศุกร์เวลา12:00,
20:00, 21:00 จาก Itaewon สถานี 630
สีเหลืองน้ำตาล ไปลงสถานี Yaksu 633 เปลี่ยนขบวนเป็นสาย3
สีส้ม
(333) ไปลงสถานี Express Bus Terminal (339) ทางออก 8-1 สวยมาก ชมน้ำพุเสร็จก็กลับโรงแรมขึ้นรถไฟฟ้าสายสีส้มสาย
3 (339) ไปยังสถานี Chungmuro (331)เปลี่ยนขบวนเป็นสาย 4 สีฟ้า 423 ไปลง 424
ที่สถานีเมียงดง เดินกลับโรงแรม Namsan Guesthouse นอนหลับฝันดี
Saturday 4th May 2013 เวลา 8:00
a.m.
ตื่นนอน ทำธุระส่วนตัว กินอาหารเช้าแล้วก็ออกเดินทางเที่ยวพระราชวัง นั่งรถไฟฟ้า
สถานี Myeongdong 424 ไป Chungmuro 423 ต่อสายสีส้ม สถานี
Chungmuro 331 นั่งไปลงสถานี Gyeongbokgung (327) ออกประตู 5
ผ่านประตู
กวงฮวามุน (Gwanghwamun Gate) ต้องไปให้ทันรอบการแสดงการเปลี่ยนเวรยามของทหารราชองค์รักษ์เวลา
10:30 , 13:30 , 15:30 ใช้เวลาแสดงประมาณ 30 นาที แล้วเดินเข้าไปข้างในพระราชวังเคียงบก
ชมพระที่นั่งคึนชองจอน
เดินผ่านหมู่อาคารทะลุกำแพงออกไปซ้ายมือจะเห็นพระตำหนักเคียงเฮรู
ตั้งอยู่กลางสระน้ำ เดินต่อไปเรื่อยๆจะเจอพระตำหนักหกเหลี่ยนมกลางน้ำชื่อฮานวอนจอง
/ ต่อมาก็เดินไปชมพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านแห่งชาติเกาหลีตั้งอยู่ด้านตะวันออกของพระราชวังคียงบกเป็นอาคารคล้ายเจดีย์เหลี่ยมหลังคา
5 ชั้น ลานด่นนอกมีรูปสลักหิน ทอลฮารุบัง จากเกาะเชจู ให้ถ่ายรูป
(ค่าเข้าชมพระราชวังเคียงบก + พิพิธภัณฑ์ 3000 วอน เด็ก 1500
วอน
ปิดวันอังคาร) เปิดระหว่าง 9:00 – 18:00 / หลังจากนั้นจะเดินไปตามถนนหน้าพระราชวังเคียงบก
เลี้ยวเข้าถนนUjeongguk-ro ไปเที่ยววัดโชเกชา (Jogyesa : 조 계 사) ตระการตาด้วยโคมสีนับพัน
กราบพระศากยมุนี พระอมิตาภพุทธะ
และพระไภษัชยคุรุพระพุทธเจ้าสามองค์เด่นตระหง่านในโบสถ์แดอุงจอน หลังจากนั้นเดินทะลุเข้าไปในซอย
Insadong 11 gil ทะลุไปถนนคนเดินอินซาดง (วันเสาร์ –
อาทิตย์จะปิดถนนเป็นถนนคนเดิน) มีของขายมากมายให้เลือกชม หาของกินเป็นมื้อเที่ยง
(ร้าน Insadong G: Jip มีเมนูBeoseod Bulgogi เนื้อย่างผัดเห็ดเข็มทอง กินกับข้าว น่าจะอร่อย
หรือ Gochujang Jeyuk Bulgogi คือหมูย่างผัดซอสพริกเหมาะสำหรับคนทานเผ็ดราคา 7000 วอน) หลังจากนั้นเดินลงมาด้านล่างสุดถนนอินซาดงก็จะผ่านสวนทับกล
เดินเลี้ยวขวาเข้าถนน Jong ro ผ่านอาคาร
Jongno Tower ตรงข้ามมรีหอระฆังโพชินกัก (Bosingak : 보 신 각) เป็นหอระฆังบอกเวลาเปิดปิดประตูเมืองสมัยราชวงศ์โชซอน เดินไปเรื่อยๆตามถนน Jong ro จนสุดทางจะเจออนุสาวรีย์แม่ทัพอีชุนชิน
ขุนพลที่นำทัพเกาหลีต่อสู้กับญี่ปุ่น
ในบริเวณเดียวกันมีอนุสาวรีย์กษัตริย์เซจงมหาราชผู้ประดิษฐ์อักษรเกาหลีในปี 1440
ด้านหลังอนุสาวรีย์พระเจ้าเซจงสามรถกดลิฟล์ลงไปชมพิพิธภัณฑ์พระเจ้าเซจงฟรี เปิด 10:30 – 22:30 ปิดวันจันทร์
เดินย้อนกลับมาด้านใต้เจอปฎิมากรรมหอยหลอดสีม่วงต้นคลองชองเกชอน ที่ Cheonggye Plaza มีบ่อ wishing
well
โยนเหรียญให้ลงไปในบ่อจะต้องเดินไปชม Gwanggyo
Gallery และกำแพงเซรามิคยาว 30 เมตร (wall
painting Banchado) ให้เดินไปถึง Ogansugyo Bridge ที่มี Wall
of Culture (จะไม่เดินตลอดก็ได้นะ ระยะทาง 2.7 Kms.) หลังจากนั้นหาสถานีรถไฟฟ้าสายสีส้มลงสถานี
321 Chungmuro เพื่อไป
หมู่บ้านโบราณนัมซานกล (Namsangol Hanok Village : 남 산 골 한 옥 마 을 ) ชมสวนโบราณ
วัฒนธรรมท้องถิ่น มีไกด์ (ฟรี) รอบ 10:30, 12:00 , 14:00, 15:30
สวมชุดฮันบกถ่ายรูป (อันนี้น่าจะต้องเช่าชุดเอง)
มีทุกวันยกเว้นวันอังคาร ไปลงสถานีChungmuro ออกประตู 3 หรือ 4 /
หลังจากนั้นจะไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ภาพลวงตาหรือ trick eye museum นั่งรถไฟสายสีเขียว
ไปลงสถานี
239 คือสถานี Hongik University ออกประตู 9
เดินขึ้นมาจากสถานีแล้วเดินต่อไปอีก 100 เมตรจะถึงทางแยก ก่อนถึงทางแยกจะผ่าน City
Bank
ถึงทางแยกให้เดินตรงไป ข้ามถนนแล้วเลี้ยวซ้ายเดินอีก 80 เมตร
เห็นร้านกาแฟสตาร์บั๊กอยู่ซ้ายมือ เดินไปอีกนิดเจอซอยหน้าซอยมีร้านสีชมพูชื่อ Holika
เดินเลี้ยวขวาเข้าซอย
30 เมตร เจอ Trick Eye museum ด้านขวามือ เปิด 10:00 – 22:00 ค่าเข้า 13,000
วอน
เด็กต่ำกว่า 18 ปี 11000 วอน แล้วก็กลับโรงแรม ก่อนกลับหาของกินมื้อค่ำที่ตลาดเมียงดง
Sunday 5th May 2013 วันนี้ต้องตื่นแต่เช้าห้ามเลท เพื่อจะไปเมืองซกโช
และอุทยานแห่งชาติซอรัคซาน
เดินทางจากโรงแรมด้วยรถไฟฟ้า สถานีเมียงดง (424) ไปยังสถานี Dongdaemun
History & Culture Park (422) เปลี่ยนขบวนเป็นสายสีเขียว (205) นั่งไปสถานี Gangbyeong
(214) ออกประตู 4 เดินข้ามถนนมาจะพบท่ารถ Dong Seoul Bus Terminal รถออกทุกๆ 30 นาที 6:25
– 23:00 Hrs ใช้เวลาเดินทาง 3.10 ชั่วโมง ค่ารถ
23400 วอน ถึงสถานี Sokcho
Intercity Bus Terminal. เที่ยวชมเมืองซกโช ชม หาดซกโช เดินไป 1 กิโล
เจอหมู่บ้านอาบาอี (abai village) ถ่ายทำ Autumn in my heart สามารถข้ามแพ 400 วอน
ไปอีกฝั่งทะเลสาบ เดินเที่ยว ตลาดปลาทงเบียง, ประภาคารชมวิว
, ศาลายองกึมจอง หรือหาของกิน แล้วก็เข้าอุทยาน ด้วยรถเมล์ สาย 7 หรือ 7-1 จาก Sokcho
Intercity Bus Terminal 30 นาที 1100 วอน ค่าเข้าอุทยาน 2700 วอน ค่ากระเช้า 8500 วอน ปิด 16:30 อุทยานปิด 18:00
พักที่
Soraksan Resotel +82 336377007
Monday 6th May 2013 จากซอรัคซาน จะไปเที่ยวเกาะนามิ หมู่บ้านฝรั่งเศส
และสวนพฤกษศาสตร์ Morning Calm เดินทางออกจากโรงแรม Soraksan Resotel ประมาณ 6 โมงเช้า
รถออกเที่ยวแรก 6:30 (มั้ง)จากนั้น นั่งรถ จาก Soraksan
Resotel นั่งรถบัสสาย 7 เข้าในเมือง ต่อรถไปยังเมืองชุนชอน (춘천) รถวิ่งสองชั่วโมงถึงชุนชอน รถจอดที่ Chuncheon Bus Terminal จากจุดลงรถให้เดินเข้าไปในตัวอาคาร ตรงไปเรื่อยๆ
จะเจอช่องขายตั๋วอยู่ด้านขวามือซื้อตั๋วต่อไปที่ Gapyeong
bus terminal [กา-พยอง bus station] รู้สึกว่ารถจะออกค่อนข้างถี่
ประมาณว่า 5-10 นาทีคัน จำราคาตั๋วไม่ได้แล้วน่าจะราวๆ 2,500 วอนในตั๋วใบใหม่นี้จะไม่มีระบุที่นั่งไว้ อยากนั่งตรงไหนก็เอาเลย
ก่อนขึ้นรถย้ำคนขับไว้หน่อยก็ดีว่า Gapyeong bus
station จากนั้นใช้เวลาประมาณ
30 นาทีเราก็จะถึงที่ Gapyeong bus station แล้วหาที่ขึ้นรถ
Gapyeong Circle tour bus (ออกเวลา 9:10, 10:10, 11:10, 13:10, 14:10, 15:10, 17:10, 18:30 ราคา 5000 Kw เด็ก 3000 Kw ขึ้นลงกี่ครั้งก็ได้ใน 1 วัน) นั่งไป 10 นาทีถึงท่าเรือไปเกานามิ Gapyeong Naru นั่งเรือ 20 นาที ค่าเข้า + เรือไปกลับ 8000 Kw เด็ก 4000 Kw เดินเล่น
ถ่ายรูปบนเกาะ เช่าจักรยานถีบ (5000 Kw / Hr) สาแก่ใจแล้วก็กลับไปขึ้นเรือเหมือนเดิม
กลับไปท่าเรือ ไปขึ้นรถ Gapyeong Circle Tour Bus เดินทางไปยัง
หมู่บ้านฝรั่งเศส ใช้เวลา 25 นาที ชมหมู่บ้านฝรั่งเศส แวะถ่ายรูป มีร้านค้า
ร้านอาหารฝรั่งเศส ตั๋ว 8000 Kw เด็ก 5000 Kw สาแก่ใจแล้วก็นั่งรถ Gapyeong Circle
Tour Bus ต่อไปยัง สวนพฤกษศาสตร์ มอร์นิ่งคาล์ม (아짐고요수목원) ค่าเข้า 8000 Kw เด็ก 4000 Kw ถ่ายรูปสวน
สวยมากๆ พื้นที่ 19 ไร่ สาแก่ใจแล้วก็กลับ
ไปขึ้นรถ Gapyeong Circle Tour Bus ไปสถานีรถไฟ Cheongpyeong สถานี P132 กลับทางเดิม ไปลงสถานี Sangbong ซึ่งเป็นสถานีสุดท้ายของรถขบวนนี้
แล้วเปลี่ยนสายต่อไปยัง K117
แล้วไปลงที่สถานี Cheongnyangni ต่อสายสีน้ำเงิน
ไปลงทงแดมุน (128) ช็อปปิ้งให้หนำใจ มีแผงลอยขายอาหารเพียบ กินให้พุงกางไปเลย
แล้วก็กลับโรงแรม ต่อสายสีฟ้า จาก 128(421) ไป 424 เมียงดง
Tuesday 7th May 2013 วันนี้จะเที่ยวเอเวอร์แลนด์กันจ๊ะ
แต่จพาไปนั่งเรือชมดอกซากุระที่ยออิโดแล้วก็ล่องแม่น้ำฮันก่อน จากสถานีเมียงดง (424) นั่งไปสถานี Seoul
Station (426) ต่อสาย G(A01) ไปลงสถานี Gondeok (A02) เปลี่ยนขบวนเป็นสายสีม่วง(529)
ไปลงสถานี
Yeouinaru (527) ออกประตู 3 ถึงสวนสาธารณะยออีโดชมซากุระ ท่าเรือล่องแม่น้ำหาไม่ยาก
เดินออกจากสถานีรถไฟใต้ดินมาก็มองเห็น ตั๋วเรือล่องแม่น้ำมีทั้งแบบไปกลับ
และขาไปอย่างเดียว ท่าเรือเทียบมี 2 ท่า คือท่าตุ๊กซัม กับท่าจัมชิล
ทั้งสองท่าห่างกันไม่เท่าไหร่ ถ้าจำไม่ผิดท่าตุ๊กซัมอยู่ฝั่งเหนือแม่น้ำ
ส่วนท่าจัมชิลอยู่ฝั่งใต้
ฉันตั้งใจจะไปสะพานควังจินต่อจึงเลือกนั่งเรือไปลงท่าจัมชิลเพราะเดินทางง่ายกว่า
เราจัดแจงซื้อบัตรคนละใบ จ่ายค่าเสียหายกันคนละ 13,000
วอน (ได้ใช้ตั๋วส่วนลดที่แถมมากับ T-Money ด้วย ลด 10 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 11,700
วอน และถ้าเดินทางจากยอีโดไปตุ๊กซัม ค่าตั๋วถูกลงมานิดหนึ่งเป็นคนละ 11,000
วอน) แล้วลงไปนั่งรอที่ท่าเรือ 11 โมงตรงก็ได้ลงเรือ
พนักงานต้อนรับเป็นสาวสวยในชุดกะลาสี ได้อารมณ์ล่องเรือดีจริงๆ เรือล่องแม่น้ำมีสองชั้น
ใครอยากจับจองที่นั่งชั้นไหน จะยืนตากแดดริมระเบียง หรือหลบลมหนาวในห้องก็ตามใจ
ฉันกับแม่เดินตรงไปนั่งใกล้หัวเรือริมระเบียง มองผืนแม่น้ำฮันอย่างตื่นตาตื่นใจ
แม่สะกิดให้ฉันดูบางอย่างที่ลอยอยู่เหนือน้ำถามฉันว่าคืออะไร
ฉันเพ่งตามองประเดี๋ยวเดียวก็ร้องอ๋อ จักรยานนาวานั่นเอง ทำเป็นรูปหงส์ซะน่ารัก
จอดกันอยู่เป็นฝูงเลย
เรือล่องแม่น้ำฮันไม่ได้พาเราชมทัศนียภาพสองฝั่งแม่น้ำเฉยๆ
เมื่อใดที่เรือแล่นไปใกล้สะพานข้ามแม่น้ำ จะมีเสียงบรรยายชื่อสะพาน
และเล่าประวัติความเป็นมาของสะพานสั้นๆ เป็นภาษาต่างๆ (เกาหลี ญี่ปุ่น และอังกฤษ)
70
นาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่ทันไรเรือก็พาเรามาถึงท่าจัมชิล สวนสาธารณะจัมชิล
ฉันกับแม่ได้เดินมาราธอนกันอีกหน ภารกิจคราวนี้ต้องหาสถานีรถไฟจัมชิลให้เจอ
เดินหลงกันอยู่ประมาณ 20
นาทีโน่นแน่ะจึงจะคลำทางมาถึง
(216)(814)
จุดหมายต่อไปคือสะพานควังจิน Gwangjin Bridge
/ 광진교 (10โมงเช้า
ไปจนถึง3ทุ่ม) นั่งรถไฟไปสถานีชอนโฮ (Cheonho 811) แล้วเดินตามลายแทงที่ได้มาจากเว็บไซต์อสท.
เกาหลี หมุนตัวหาทิศอยู่ครู่หนึ่งจนแน่ใจจึงจะออกเดินกัน สะพานควังจินเก๋กว่าสะพานข้ามแม่น้ำแห่งอื่นๆ
เพราะมีสวนสาธารณะอยู่บนนั้น ส่วนใต้สะพานก็ไม่น้อยหน้ากัน
คือมีห้องแสดงนิทรรศการและห้องแสดงดนตรีชื่อ Riverview 8th
Avenue 광진교 리버뷰 8번가 ตั้งอยู่
ใต้สะพานที่ว่าไม่ได้หมายถึงอยู่บนพื้นดินใต้สะพานแต่เป็นใต้สะพานจริงๆ
คืออยู่ตั้งข้างล่างสะพาน เหนือแม่น้ำฮันนั่นเลย จุดเด่นของ Riverview 8th Avenue คือปูพื้นบางส่วนด้วยกระจก
เมื่อขึ้นไปยืนทำให้เรารู้สึกราวกับลอยบนผืนน้ำได้ สวนบนสะพานน่านั่ง ส่วน Riverview 8th Avenue ก็สวยสมใจ
แค่ได้ขึ้นไปยืนบนพื้นกระจกใสมองลงไปเห็นแม่น้ำฮันก็ใจสั่น หนแรกฉันแหย่เท้าเข้าไปยืนแค่ตรงขอบ
ต่อมาชักติดใจค่อยๆ ขยับเข้าไปยืนตรงกลาง ใครกลัวความสูงคงไม่ชอบนัก
แต่ฉันกับแม่สนุกมาก เดินไปเดินมาบนนั้นอยู่หลายหน
รู้สึกเหมือนได้เหาะเหินเดินอากาศอยู่เหนือผืนน้ำ Riverview
8th Avenue นี้เป็นสถานที่ถ่ายทำละครเรื่อง IRIS ด้วย
ในห้องนิทรรศการมีการนำภาพนักแสดงมาติดเต็มฝาผนัง เจอนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นสองคน
มาเที่ยวเพื่อตามรอยละครเรื่องนี้โดยเฉพาะ
ผิดกับสองแม่ลูกที่เพิ่งรู้ว่าเป็นโลเกชั่นถ่ายละครก็เมื่อตอนไปถึง
ตอนแรกฉันคิดว่าเราคงอยู่บนสะพานควังจินไม่นาน
กลับกลายเป็นว่าเราเดินเล่นบนนั้นตั้ง 1 ชั่วโมง โถ
ถ้าบนสะพานไม่มีจุดชมวิว กับลูกเล่นเก๋ๆ อย่าง Music
Bench และ Riverview 8th Avenue เราคงไม่อ้อยอิ่งกันอย่างนี้หรอก Music Bench หรือที่ฉันตั้งชื่อเองเล่นๆ
ว่าเก้าอี้ดนตรี เป็นลูกเล่นของสวนบนสะพาน เขาออกแบบม้านั่งเป็นรูปคีย์บอร์ดเปียโน
และเปิดเพลงคลอทั้งวัน ม้านั่งนั้นจะสว่างขึ้นเมื่อมีใครไปนั่ง ดูเหมือนไม่มีอะไร
แต่มันก็มีอะไรนะเออ!
สำหรับการเดินทาง :: ไปสะพาน Kwangjin ถ้ามาจากที่อื่น
1. ให้นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน
สายที่5 ลงที่สถานีGwangnaru (광나루역) แล้วออกประตูที่2 จากนั้นข้ามถนน เลี้ยวซ้าย และเดินต่ออีกประมาณ300มตร เลี้ยวขวา ตรงgwangjin youth
training center ประมาณ100เมตร
จะเห็นทางเข้าสะพานgwangjin เดินตรงไปอีก500เมตร จะเห็นRiverview 8th Avenueจ๊า
2. ให้นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน
สายที่5 ลงที่สถานีGwangnaru (광나루역) แล้วออกประตูที่2 จากนั้นข้ามถนน เลี้ยวซ้าย แล้วเรียกแท็กซี่ (^^") เพราะมันโคตรไกล
เสร็จแล้วก็หาทางไป Everland
ให้นั่งรถไฟไปสถานี
Gangnam (222)(D07) ทางออก 5, 6 ป้ายรถเมล์อยู่เกาะกลางถนน ระหว่างทางออก 5 & 6
นั่งรถเมล์สาย 5002
ใช้เวลา 40 นาที
2100
วอน รถวิ่ง 8:50 – 23:10
Hrs. ลงป้ายเอเวอร์แลนด์แล้วต่อด้วยรถบัสฟรีของเอเอวร์แลนด์
ค่าเข้าเอเวอร์แลนด์ 40000
วอน โชว์พาสปอร์ตได้ส่วนลด 20% พิมพ์คูปองส่วนลดที่ www.everland.com เล่นเครื่องเล่นจนสวนปิด 22:00 น.
Wednesday 8th May 2013เที่ยวตามสบายใจ ใครอยากไปไหนก็บอกมา
แต่อย่าลืมนะ ว่า เรามีไฟลท์บินตอน
17:25 D7505 จาก อินชอน ไปกัวลาลัมเปอร์
เพราะฉะนั้นตอนเช้ายังมีเวลาก็ขึ้นหอคอย Namsan Seoul Tower 10:00 –
23:00 ช่องขายตั๋วปิด 22:30 น. หอคอยชมวิว 9000 วอน เด็ก 5000 วอน เท็ดดี้แบร์ 8000 วอน
เด็ก 5000
วอน รวมสองอย่างผู้ใหญ่ 14,000
วอน เด็ก 7,000 วอน
ประมาณ บ่ายสองโมงก็ออกเดินทางไปสนามบินได้ ถึงกัวลาลัมเปอร์ 22:55 น.
ดึกแล้ว นอนสนามบินนั่นแหละ อย่าหรูนัก นอนข้างทางซะมั่ง
จะได้มีความสุขในแบบที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน ว่าพื้นสนามบินกัวลาลัมเปอร์น่ะ
หนาวยิ่งกว่าที่ลำปาง จริงๆนะ
Friday 9th May 2013 วันนี้จะกลับภูมิลำเนาแล้วนะ ซื้อของฝากเป็นที่ระทึกอะไรก็ว่าไป
ที่สนามบินกัวลา ลูกสละเชื่อม อร่อยมาก ไฟลท์ AK1860 10:35 ถึงสุรษฎร์ธานี 11:05 น.
นั่งรถกลับสมุย
ใครจะลงกาญจนดิษฐ์เราก็ไม่ได้ห้าม
ตลอดทริปมีแค่นี้ครับ ทริปหน้าถ้ามีโอกาสจะไปเมืองอื่นด้วยครับ
อ่านบทความถัดไป วันที่ 1 เดินทางจากสมุย ไปสุราษฎร์ธานี ไป กลัวลาลัมเปอร์ ด้วย Air Asia นอนค้างกัวลาลัมเปอร์ 1 คืน
อ่านบทความถัดไป วันที่ 1 เดินทางจากสมุย ไปสุราษฎร์ธานี ไป กลัวลาลัมเปอร์ ด้วย Air Asia นอนค้างกัวลาลัมเปอร์ 1 คืน